หุ้นกู้ผิดนัดชำระ ต้องทำอย่างไร? คู่มือนักลงทุนและสิทธิทางกฎหมายที่ควรรู้
ความเสี่ยงเรื่อง ผิดนัดชำระหนี้ (Default) คือความเสี่ยงถาวรที่นักลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารหนี้หนีไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกู้บริษัทมหาชนที่ออกในตลาดหลักทรัพย์ หรือ หุ้นกู้ Crowdfunding (หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง) ที่ออกโดยบริษัท SME ขนาดเล็ก เมื่อผู้ออกหุ้นกู้ไม่สามารถชำระคืนเงินต้นหรือดอกเบี้ยได้ตามกำหนด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม นักลงทุนในฐานะเจ้าหนี้ย่อมเกิดความกังวลว่าจะสูญเสียเงินลงทุน
เมื่อการผิดนัดชำระเป็นเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ การเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญ ในบทความนี้ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ในฐานะ Crowdfunding Platform (แพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิง) อันดับ 1 ของไทย และเป็นรายแรกและรายเดียวที่ได้รับความเห็นชอบเป็น ‘ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้’ จะพาคุณมาทำความเข้าใจวิธีรับมือ สิทธิทางกฎหมาย และความอุ่นใจที่มากขึ้นเมื่อลงทุนใน หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ที่มีหลักประกัน โดยครอบคลุมประเด็นสำคัญดังนี้
- เข้าใจประเภทหุ้นกู้และลำดับสิทธิ์ในการได้รับชำระหนี้
- วิธีปฏิบัติเมื่อหุ้นกู้ที่ลงทุนผิดนัดชำระ
- ทางออกและการดำเนินการทางกฎหมาย
- บริหารความเสี่ยงก่อนการลงทุน (Risk Management)
1. เข้าใจประเภทหุ้นกู้และลำดับสิทธิ์ในการได้รับชำระหนี้
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดเหตุผิดนัดชำระ คือการตรวจสอบว่าหุ้นกู้ที่คุณถืออยู่เป็นประเภทใด เพราะจะมีผลต่อลำดับการได้รับเงินคืนเมื่อมีการบังคับคดีหรือจำหน่ายสินทรัพย์ เช่น
- หุ้นกู้มีหลักประกัน (Secured Bond): คือหุ้นกู้ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันรองรับ ผู้ถือหุ้นกู้กลุ่มนี้จะมีสิทธิ์เหนือเจ้าหนี้รายอื่นในการบังคับเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินที่วางเป็นประกันไว้
- หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ (Unsecured and Unsubordinated Bond): ผู้ถือหุ้นกู้กลุ่มนี้มีสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายเท่าเทียมกับเจ้าหนี้สามัญรายอื่น (เช่น เจ้าหนี้การค้า) แต่จะได้รับชำระหนี้หลังจากเจ้าหนี้มีหลักประกันได้รับเงินครบแล้ว
- หุ้นกู้ไม่มีประกันและด้อยสิทธิ (Subordinated Bond): มีสิทธิได้รับชำระหนี้ในอันดับรองลงมาจากเจ้าหนี้สามัญ แต่ยังมีสิทธิ์สูงกว่าผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์และหุ้นสามัญ
- หุ้นบุริมสิทธิ์ (Preferred Stock): มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนก่อนหุ้นสามัญ
- หุ้นสามัญ (Common Stock): มีสิทธิ์ได้รับชำระหนี้เป็นลำดับสุดท้ายในฐานะเจ้าของกิจการ
แล้วหุ้นกู้ Crowdfunding จัดเป็นหุ้นกู้ประเภทไหน?
โดยทั่วไปในตลาด หุ้นกู้ Crowdfunding มักเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกัน แต่ด้วยความมุ่งมั่นของ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ที่ได้รับความเห็นชอบเป็น ‘ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้’ จากสำนักงาน ก.ล.ต. เราจึงสามารถเสนอขาย หุ้นกู้ Crowdfunding ที่มีหลักประกัน ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้นักลงทุน โดยหลักประกันของเรามี 2 ประเภทหลัก คือ:
- สินทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-Backed): การนำสินทรัพย์ที่มีค่าทางเศรษฐกิจมาวางเป็นประกัน เช่น อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร หรือสิทธิเรียกร้อง หากเกิดการผิดนัดชำระ สามารถนำสินทรัพย์นี้ไปขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาคืนนักลงทุนได้
- กรรมการบริษัทค้ำประกัน (Personal Guarantee): กรรมการผู้มีอำนาจลงนามค้ำประกันด้วยทรัพย์สินส่วนตัว เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้บริหารจะรับผิดชอบหนี้สินอย่างถึงที่สุด หากบริษัทไม่จ่าย กรรมการต้องรับผิดชอบจ่ายแทน
2. วิธีปฏิบัติเมื่อหุ้นกู้ที่ลงทุนผิดนัดชำระ
ขั้นตอนที่ 1: รวบรวมข้อมูลการลงทุน
ตรวจสอบเอกสาร Factsheet สัญญาการจองซื้อ เพื่อดูเงื่อนไขการผิดนัดชำระ (Event of Default) และดอกเบี้ยปรับ (Penalty Rate)
ขั้นตอนที่ 2: ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
- หุ้นกู้ทั่วไป: ติดตามผ่านหน้า News ของสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA)
- หุ้นกู้ Crowdfunding: ตรวจสอบข้อมูลได้ที่เมนู "รายงานตามมาตรา 57 สำหรับบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์คราวด์ฟันดิง" บนเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต.
- สำหรับนักลงทุนอินเวสทรี (ไทยแลนด์) เรามีรายงานสถานะผ่าน Dashboard และอีเมลให้นักลงทุนทราบทันทีเมื่อมีความเคลื่อนไหว

เช็คข่าวสารตราสารหนี้ (ThaiBMA News)
ติดตามประกาศ ข่าวสาร และความเคลื่อนไหวล่าสุดของหุ้นกู้ทุกตัวในตลาดได้โดยตรงจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย
คลิกเพื่อดูข่าวสารล่าสุด ➜
รายงานมาตรา 57 (ข้อมูลการผิดนัดชำระ)
ตรวจสอบรายชื่อบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์คราวด์ฟันดิงที่มีการผิดนัดชำระหนี้ และยอดค้างชำระตามรายงานของ ก.ล.ต.
ดูรายงานข้อมูล ก.ล.ต. ➜ขั้นตอนที่ 3: ติดต่อ "ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้" และเข้าร่วมประชุม
-
ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้คือใคร?
เปรียบเสมือน "องครักษ์" ที่คอยปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรอง หรือดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทผู้ออกหุ้นกู้แทนนักลงทุนทุกคน (ตามมติที่ประชุม) หน้าที่หลักได้แก่ การติดตามผลการดำเนินงาน จัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเกิดปัญหา และฟ้องร้องบังคับหลักประกัน การมีผู้แทนฯ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มอำนาจต่อรองให้นักลงทุนรายย่อย
-
หุ้นกู้ Crowdfunding มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้หรือไม่?
ในอดีต หุ้นกู้ SME มักไม่มีคนกลางดูแลเพราะข้อจำกัดด้านภาระค่าใช้จ่ายที่ผู้ออกหุ้นกู้ต้องรับผิดชอบเอง ทางสถาบันการเงินที่ให้บริการเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ก็ไม่สนใจในการรับงานเพราะขนาดการระดมทุนที่มีขนาดเล็ก ไม่คุ้มในเชิงธุรกิจ แต่หลังจากสำนักงาน ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ให้ Funding Portal (ผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิง) สามารถเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ Crowdfunding ที่เสนอขายผ่านระบบ Crowdfunding ของตนเองได้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2024
3. ทางออกและการดำเนินการทางกฎหมาย
เมื่อการเจรจาเบื้องต้นไม่เป็นผล ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ซึ่งมักมีทางเลือกดังนี้:
การปรับโครงสร้างหนี้
วิธีนี้มักเป็นทางออกแรกเพื่อลดความเสียหาย และให้โอกาสธุรกิจได้ฟื้นตัวเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ เช่น
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้: ยืดเวลาคืนเงินต้น เพื่อให้กระแสเงินสดบริษัทคล่องตัวขึ้น
- ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขดอกเบี้ย: อาจเพิ่มดอกเบี้ยชดเชยความเสี่ยง หรือปรับลดเพื่อให้บริษัทชำระไหว ตามมติที่ประชุม
- แปลงหนี้เป็นทุน: เช่น แปลงหนี้เป็นหุ้นเพื่อให้ผู้ถือหุ้นกู้กลายเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท
- เพิ่มเติมเงื่อนไข: เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไข หรือข้อตกลงที่เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เช่น การเรียกหลักประกันเพิ่ม เพื่อความมั่นใจที่มากขึ้นแลกกับการขยายเวลา
การดำเนินคดีทางกฎหมาย
ทางเลือกสำหรับบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่ไม่มีเจตนาชำระหนี้ หรือการปรับโครงสร้างหนี้ล้มเหลว โดยมักเป็นการฟ้องแพ่งและอาญาขึ้นกับกรณี แต่เพื่อบังคับคดีหรือบังคับหลักประกัน เพื่อขายทอดตลาดสินทรัพย์ หรือ ฟ้องร้องกรรมการที่ค้ำประกันส่วนตัว เพื่อนำเงินมาเฉลี่ยคืนแก่นักลงทุน
4. บริหารความเสี่ยงก่อนการลงทุน (Risk Management)
แม้กลไกการปกป้องนักลงทุนและกระบวนการติดตามหนี้จะเข้มแข็ง แต่การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข นักลงทุนจึงควรบริหารความเสี่ยงด้วยตนเองก่อน โดย
- ศึกษาข้อมูลเชิงลึกและประเมินความเสี่ยง ทำความเข้าใจหุ้นกู้พร้อมกับศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้อย่างละเอียด พิจารณาความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ เช่นหากลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงก็จะตามมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย (High Risk High Return)
- ทำความเข้าใจเครดิตเรทติ้ง ทำความเข้าใจเครดิตเรทติ้ง (Credit Rating) ไม่ว่าจะเป็นของผู้ออกหุ้นกู้ หรือหุ้นกู้เอง พร้อมตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเพื่อสะท้อนถึงปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ผลการดำเนินงานของบริษัท แนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจกระทบต่อความสามารถในการดำเนินกิจการของบริษัท
- กระจายความเสี่ยง (Diversification): อย่าทุ่มเงินทั้งหมดในหุ้นกู้ตัวเดียว ควรกระจายลงทุนในหลายอุตสาหกรรม หรือหลายบริษัท (Asset Allocation)
- ลงทุนผ่าน Platform ที่ได้รับความเห็นชอบ: นักลงทุนควรมองหา Platform ที่เชื่อถือได้ เพื่อการลงทุนที่โปร่งใสและปลอดภัย โดยนักลงทุนควรเลือก Platform ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต.
บทสรุป: ลงทุนหุ้นกู้ Crowdfunding อย่างมั่นใจ
ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน แต่การลงทุนใน Platform ที่แข็งแกร่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงนั้นได้ ที่ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) เราไม่เพียงแค่เป็นตัวกลางระดมทุน แต่เราคือ "ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้" ที่พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน และมุ่งมั่นนำเสนอ หุ้นกู้ Crowdfunding ที่มีหลักประกัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการลงทุน SME ไทย
พร้อมเริ่มลงทุนในหุ้นกู้ที่มีหลักประกันและผู้ดูแลผลประโยชน์มืออาชีพหรือยัง? ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเป็นนักลงทุนได้ที่นี่
คำเตือน: หุ้นกู้ Crowdfunding เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน




