Artificial Intelligence คู่มือสู่การเพิ่มศักยภาพ SME
Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ คือ การพัฒนาและสอนระบบคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างมนุษย์ ตัวอย่างเช่น การเข้าใจภาษา การจดจำข้อมูล หรือการตัดสินใจจากข้อมูล ปัจจุบัน AI ได้มีการพัฒนาและสามารถใช้เป็นเครื่องมือช่วย SME ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ และลดค่าใช้จ่ายในงานประจำบางชนิด บทความนี้จะมายกตัวอย่างการใช้งาน AI ในบริบทต่างๆที่ SME สามารถนำไปใช้พร้อมปัจจัยสำคัญที่ SME ต้องพิจารณาเพื่อให้การใช้ AI ประสบความสำเร็จ
การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI
การใช้ AI เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่างเช่น Google Analytics ที่สามารถช่วย SME แปลงข้อมูลที่มีให้เป็นข้อมูลที่นำไปใช้ได้จริง โดยการสังเคราะห์ข้อมูลในมิติต่างๆเพื่อช่วยให้ธุรกิจนำไปใช้ในการตัดสินใจ ปรับปรุงแผนงานและวัดผลทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเห็นโอกาสใหม่ๆในตลาดจากข้อมูลที่มี การหมั่นตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล รวมถึงการปรับฐานข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำเพื่อรับรองความน่าเชื่อถือและการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง
การตลาดและการขายด้วย AI
การใช้แพลตฟอร์มเพื่อช่วยงานด้าน Digital Marketing เช่น การใช้ ChatGPT หรือ Bard ในการสร้างเนื้อหาการตลาด (Marketing Content) ที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ เช่น หากคุณประกอบธุรกิจขายเครื่องกรองอากาศ คุณสามารถใช้ ChatGPT หรือ Bard เขียนคำอธิบายผลิตภัณฑ์ บทความเพื่อการทำ SEO หรือโพสต์โซเชียลมีเดียเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้เครื่องกรองอากาศ หรือวิธีการเลือกเครื่องกรองอากาศที่เหมาะกับคุณ ซึ่งคุณสามารถนำร่างนั้นไปปรับแก้เพื่อความถูกต้อง (Fact Check) และให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ เครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาในการคิด เขียน และเตรียมงานทางด้าน Digital Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากด้าน Marketing Content แพลตฟอร์มอย่าง Salesforce หรือ Hubspot สามารถช่วยให้ SME วิเคราะห์พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าเพื่อสร้างแผนการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการบริหารลูกค้าสัมพันธ์อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ การอัพเดทข้อมูลลูกค้าให้ถูกต้องและอย่างต่อเนื่องจะทำให้แพลตฟอร์มสามารถทำงาน วิเคราะห์ และประมวลผลได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
การบริการลูกค้าด้วย AI
แพลตฟอร์มแชทบอทที่สามารถตอบแชทอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ZWIZ.AI ManyChat และ Chatfuel จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสื่อสารและบริการลูกค้าได้เร็วและแม่นยำขึ้น แชทบอทเหล่านี้ยังสามารถช่วยลดการใช้พนักงานในการตอบคำถามที่ไม่ซับซ้อน ให้พนักงานมีเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับงานที่ซับซ้อนและท้าทายประเภทอื่น ทั้งนี้ การใช้แชทบอทอาจเจอกับปัญหาในการเข้าใจคำถามที่ซับซ้อน จึงจำเป็นที่ต้องมีพนักงานหมั่นตรวจสอบและจัดการคำตอบเมื่อจำเป็น
การบริหารจัดการการผลิตด้วย AI
การใช้เครื่องมือเช่น SAP's Intelligent Asset Management และ GE's Predix Manufacturing Execution System (MES) สามารถช่วยในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต โดยใช้ AI ในการคาดการณ์เกี่ยวกับการดูแลรักษา การลดระยะเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน และการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) การนำระบบการจัดการผลิตมาใช้รวมถึงการฝึกอบรมพนักงานมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่ธุรกิจจะได้รับคือกำไรในระยะยาวและความสามารถในการปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
การบริหารทรัพยากรบุคคลด้วย AI
แพลตฟอร์มเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลมีหลากหลาย ตัวอย่างเช่น LinkedIn Recruiting Solutions และ Workday สามารถแบ่งเบางานฝ่ายบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับสมัครงาน การทดสอบ การประเมินพนักงาน การอบรม หรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบุคคล ทั้งนี้ ฝ่ายบุคคลยังคงจำเป็นที่จะทำงานควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มในบางเรื่องเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ตัวอย่างเช่น การเช็คและยืนยันประวัติผู้สมัครควรทำควบคู่ไปกับการคัดเลือกและประเมินผู้สมัครเพื่อไม่ให้เกิดการตกหล่นของผู้สมัครที่เหมาะสมและไม่ให้เกิดการรับผู้สมัครที่ไม่เหมาะสมเช่นกัน
การปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วย AI
การใช้ Robotic Process Automation (RPA) เช่น Automation Anywhere และ UiPath สามารถช่วย SME ปรับปรุงกระบวนการการทำงานโดยเปลี่ยนการทำงานด้วยมือให้เป็นแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ SME ประหยัดเวลาและทรัพยากร การอัตโนมัติกระบวนการทำงานอาจส่งผลให้ความต้องการในการจ้างงานน้อยลง ธุรกิจจึงต้องพิจารณาโครงสร้างการทำงานอย่างถี่ถ้วนและสื่อสาร อบรมพนักงานเพื่อการเตรียมตัวและปรับตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์
การดูแลความปลอดภัยระบบด้วย AI
แพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัย เช่น CrowdStrike และ NortonLifeLock สามารถช่วยป้องกันข้อมูลธุรกิจจากการโจมตีทางไซเบอร์โดยการตรวจสอบและหยุดยั้งภัยหรือความผิดปกติทันทีที่พบเจอ อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยระบบไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้เสมอไป เพราะภัยทางไซเบอร์มีการพัฒนาและสามารถโจมตีโดยใช้เทคนิคใหม่ๆได้เสมอ ดังนั้นการอบรมพนักงานและลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัย เช่นการป้องกันการโกงและการหลอกลวง (scam and phishing) จึงยังคงมีความจำเป็นอยู่
การจัดการทางการเงินด้วย AI
แพลตฟอร์มทางการเงิน เช่น FlowAccount และ QuickBooks สามารถช่วยให้ SME วิเคราะห์ และบริหารจัดการกระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถช่วยลดงานของ SME ให้มีเวลาในการพัฒนาและเติบโตธุรกิจมากขึ้น ทั้งนี้ SME ยังคงต้องให้ความสำคัญกับความถูกต้องของข้อมูลด้านการเงิน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเพื่อตรวจสอบความถูกต้องเมื่อถึงเวลาปิดงบ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพมากถ้า SME รู้จักวิธีใช้งานอย่างถูกต้อง สามารถช่วยให้การบริหารธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการตรวจสอบผลการทำงานของ AI ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการใช้ AI ซึ่ง SME ต้องให้ความสำคัญและตระหนักถึง เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีความถูกต้อง และสามารถนำไปปรับปรุงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิผล ในการพัฒนาธุรกิจ SME ควรใช้ความสามารถของมนุษย์ อย่างเช่น วิจารณญาณ ความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) และความคิดสร้างสรรค์ เป็นตัวเสริมในการตัดสินใจ การประกอบกันระหว่างมนุษย์และ AI จะทำให้ SME สามารถสร้างความสำเร็จและความยั่งยืนในระยะยาวได้
ปัจจุบัน ยังไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้าน AI ซึ่ง แซม อัลท์แมน ผู้บริหารบริษัท OpenAI เจ้าของ ChatGPT ได้ให้ความเห็นกับ Senate Subcomittee Hearing เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2523 ว่าทางรัฐสภาสหรัฐอเมริกาควรสร้าง Regulations และ Safety Standard เพื่อไม่ให้ AI โดนใช้ในทางที่ผิด